นับจาก พ.ศ. 2494 จวบจนปัจจุบัน คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนในฐานะสถาบันการศึกษาและก้าวเดินมาอย่างมั่นคงจนอีกไม่นานก็จะเข้าสู่ทศวรรษที่ 8 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมเชื่อว่า คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้พิสูจน์ตนเองจนเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมไทยโดยทั่วไปแล้วถึงการเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำในทางรัฐศาสตร์ที่ผลิตองค์ความรู้และบุคลากรที่เต็มเปี่ยมคุณภาพออกไปรับใช้ส่วนรวมอย่างต่อเนื่องในแทบทุกสาขาอาชีพ อย่างไรก็ดี แม้มีอดีตที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในทุกวันนี้ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลากหลายเรื่องที่ถาโถมเข้าใส่ ไล่ตั้งแต่การจัดการเรียนการสอน บุคลากร งานวิจัย ความร่วมมือระดับนานาชาติ ระบบบริหารจัดการ กิจกรรมของนักศึกษา ไปจนถึงอาคารสถานที่ ผมอยากเรียนตามตรงว่า มีความท้าทายที่รอคอยคณะอยู่ท่ามกลางพลวัตในโลกยุคปัจจุบันที่บีบให้ทุกสถาบันการศึกษาจำต้องหาทางปรับตัว เพื่อรักษาไว้ซึ่งความเป็นเลิศทางวิชาการและศักยภาพในการสร้างประโยชน์แก่สังคม แต่ถึงกระนั้น แม้มีความไม่แน่นอน ตลอดจนอุปสรรค ที่ต้องรับมือ ผมเชื่อมั่นว่า คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นทั้ง “องค์กร” ที่เข้มแข็งยืดหยุ่น และ “ประชาคม” ที่เหนียวแน่นกลมเกลียว สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดแข็งที่ไม่เพียงสามารถช่วยให้คณะอยู่รอด ทว่ายังน่าจะเติบโตและพัฒนาต่อไปได้ด้วย นับแต่วันแรกที่ได้รับเกียรติให้เข้ามารับหน้าที่คณบดี ผมเห็นความตั้งใจจริงและความทุ่มเทของบุคลากรทุกส่วน ไม่ว่าคณาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่ ที่ล้วนแต่ต้องการให้คณะดีขึ้น ขณะเดียวกัน ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันต่างก็เต็มที่กับคณะเช่นกัน คือคอยติดตามความเป็นไปและหยิบยื่นความช่วยเหลือ เมื่อเป็นเช่นนี้ เวลามองไปข้างหน้า 10 ปี หรือ 20 ปี ผมจึงไม่เคยกลัวว่า คณะนี้จะไปต่อไม่ได้ หรือต้องถดถอย อย่างมากสุดก็มีแค่ความเป็นห่วงเท่านั้น
สุดท้าย ควรเพิ่มเติมด้วยว่า พ.ศ. 2567 เป็นปีที่ 75 แห่งการสถาปนา และเพื่อเฉลิมฉลองวาระที่พิเศษยิ่งนี้ ทางคณะมีแผนจัดกิจกรรมมากมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นโอกาสให้ “ชาวสิงห์แดง” ได้ระลึกถึงและกลับมามีปฏิสัมพันธ์กับคณะในแบบที่แต่ละท่านสะดวก กิจกรรมทั้งหมดน่าจะช่วยกระชับและสร้างความคึกคักให้แก่ “ประชาคมชาวสิงห์แดง” นอกจากนี้ วาระ 75 ปียังเป็นคล้ายกับหมุดหมายที่ชวนให้ตรึกตรองถึงทิศทางในอนาคต คณะมีภารกิจเรื่องการปรับตัวรออยู่อีกมาก โดยเฉพาะการยกเครื่องทุกหลักสูตร การปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนการสอน และการส่งเสริมความเป็นนานาชาติ วาระ 75 ปีจึงไม่ได้มีเฉพาะการเฉลิมฉลอง ทว่ามีการตั้งหลักด้วย เพื่อให้คณะรุดหน้าไปตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษา การเผยแพร่และการพัฒนาองค์ความรู้ด้านรัฐศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ เพื่อประโยชน์ของประชาชน”